ช่วงแรกของการฝึกฝนภาษาต่างประเทศ ก็เป็นธรรมดาที่เราจะฟังบทสนทนาจริงไม่ทันไปบ้าง แต่ไม่นานก็จะชินไปได้เอง เพียงแต่ ภาษาจีน นั้นยากกว่าภาษาอื่นเล็กน้อย เพราะมีเสียงของอักษรที่เหมือนกันเยอะมาก แถมเสียงเหล่านั้นยังมีเงื่อนไขในการเปลี่ยนโทนเสียง กรณีที่วางอยู่คนละตำแหน่งก็เป็นไปได้ที่จะออกเสียงคนละโทนกัน ที่สำคัญคือคนจีนพูดสื่อสารกันเร็วมาก แบบนี้เราจะแก้ไขอย่างไรให้พัฒนาจนสามารถใช้ภาษานี้ในการสื่อสารจริงได้ ข่าวการศึกษาไทย
ฟัง ภาษาจีน ซ้ำแล้วพูดตามทันที
วิธีการฟังแล้วพูดตามเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีในทุกภาษา แน่นอนว่ารวมถึงภาษาจีนด้วยเช่นกัน ให้เราเลือกประโยคสั้นๆ มาฝึกก่อน จะได้ไม่รู้สึกว่ายากจนท้อถอย ลองเปิดเสียงบทสนทนาในระดับความเร็วปกติ ฟังแล้วออกเสียงตามให้คล้ายคลึงมากที่สุด ทำซ้ำจนกว่าจะคล่องปาก จากนั้นค่อยมาดูความหมายของมันอีกที หลังจากเราฝึกจนใช้ประโยคนั้นได้อย่างลื่นไหลแล้ว พอได้ยินอีกครั้งก็จะคุ้นหูและจับใจความได้ง่ายขึ้น
เลือกฟังภาษาจีนเฉพาะคำสำคัญ
ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไวยากรณ์ของภาษาจีนมีตัวอักษรฟุ่มเฟือยอยู่มาก สำหรับคนที่ใช้ภาษานี้มาตั้งแต่เกิด การรวมทุกตัวอักษรในประโยคยาวเหยียดให้เป็นคำพูดที่สั้นกระชับ มันจึงเป็นจังหวะการพูดที่เร็วมาก และยังฟังยากในคนที่ไม่ได้ใช้ภาษานี้เป็นภาษาแม่ด้วย อีกเทคนิคหนึ่งที่พอใช้ได้ก็คือการเลือกฟังบางคำ ให้รู้แค่ใคร ทำอะไร ที่ไหน แค่นี้ก็พอแล้ว ส่วนอื่นที่ไม่เข้าใจเราสามารถถามแบบเจาะลึกลงไปอีกทีได้
ท่องประโยคจำเป็นในภาษาจีน
จุดเริ่มต้นของการสื่อสารภาษาจีน คือเราต้องพอพูดและฟังประโยคพื้นฐานในภาษานั้นได้ ซึ่งก็จะมีน้อยและง่ายกว่าแบบที่เราเรียนตามหลักสูตรเยอะมาก เราอาจจะใช้วิธีการจดใส่สมุดก่อนก็ได้ว่าแต่ละวันเราพูดอะไรบ้าง จากนั้นค่อยไปดูว่าฝั่งจีนเขาพูดกันอย่างไร แล้วก็ฝึกทั้งหมดจนกว่าจะคล่อง เมื่อไรที่เราพูดได้แบบอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาคิดก่อนนานเกินไป เราก็จะพัฒนาทักษะสื่อสารได้เร็วขึ้นหลังจากนั้น
- วิธีเรียนให้เก่ง ความจำดี กับ 5 ขั้นตอนแบบง่าย ๆ ทำอย่างไรได้บ้าง
- เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง กับเทคนิคการ ฟรี ๆ แต่ได้ผลจริงสุด
- อุปกรณ์การเรียนน่ารัก เป็นหนึ่งในไอเทมสำคัญที่ช่วยเพิ่มสีสันของการเรียน 
- ไอแพดเพื่อการศึกษา เป็นหนึ่งอุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้น
- เรียน ยัง ไง ให้ได้ A เป็นความรู้สึกที่น้องใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยมองว่ายาก