การเรียนสายสาธิต เป็นการเรียนรู้ผ่านโครงการต่างๆ
การเรียนสายสาธิต คือ การเรียนแนวบูรณาการ ซึ่งจะไม่ค่อยเน้นในเรื่องของวิชาการสักเท่าไร โดยการเรียนการสอนแบบสายสาธิตนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นให้เด็กเรียนรู้ผ่านโครงงานต่าง ๆ เพื่อให้เด็กได้ใช้ทักษะเชาว์ปัญญาในการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ การสังเกต และลงมีปฏิบัติจริง อีกทั้งยังเป็นการฝึกให้เด็กมีความคิดที่แตกต่างหรือใช้ความรู้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่ ทำให้เขาพร้อมที่จะกล้าแสดงออกความคิดเห็นของตนเองออกมา
การเรียนสายสาธิต การเรียนรู้แบบบูรณาการ ฝึกการคิดวิเคราะห์
โดย การเรียนสายสาธิต นี้มักเน้นให้เด็กได้พูดคุยและแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ออกมา เกี่ยวกับการเรียนนั้น ๆ ก็ยิ่งทำให้นักเรียนมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น เหมือนเป็นการต่อยอดในอนาคตของพวกเขา เวลาที่เจอเรื่องเกี่ยวกับการตัดสินใจหรือจะลงมือทำอะไรสักอย่าง พวกเขาก็จะมีขบวนการทางความคิดและวางแผนอย่างเป็นระบบ จากประสบการณ์ที่ได้ทดลองลงมือทำจริง นอกจากนี้ความคิดความอ่านก็จะมองไปไกลกว่า เหมือนกับสายสาธิตที่พวกเขาได้เรียนมานั่นเอง
ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนสาธิต นั้นถือว่ามีความนิยมเป็นอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยแผนการเรียนการสอนที่ไม่ค่อยหนักเหมือนพวกสายวิชาการ อีกทั้งยังเป็นการเรียนแบบบูรณาการที่ทำให้เด็กได้ใช้ความคิดของตัวเอง รวมไปถึงการลงมือปฏิบัติงานต่าง ๆ จึงทำให้เด็กเกิดความเข้าใจได้ง่ายกว่าและมีความสุขกับการเรียน เพราะฉะนั้นทำให้การสอบเข้านั้นเป็นเรื่องยากมากพอสมควร และเด็กที่จะสอบเข้าสายสาธิตนี้ได้ ต้องมีความเก่งในเรื่องของ เชาว์ปัญญา การสังเกต การคิดวิเคราะห์ รวมไปถึงการฟัง ซึ่งทักษะพวกนี้ต้องใช้ในการเรียนแนวสายสาธิต ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
แต่ถ้าหากสามารถสอบเข้าโรงเรียนสายสาธิตนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายไหนก็ตาม รับรองว่าลูกของเราเขาก็จะสนุกกับการเรียนแนวนี้อย่างแน่นอน แต่เด็กบางคนก็ใช่ว่าจะเรียนได้ เพราะเขาอาจจะถนัดในด้านของวิชาการมากกว่า การใช้เชาว์ปัญญา ซึ่งการที่เราจะพาลูกของเราไปสอบ ก็ควรดูให้ออกว่าเขาเหมาะกับด้านไหนมากกว่ากัน เราจะได้สนับสนุนเขาให้ถูกทางนั่นเอง และเตรียมตัววางแผนการเรียนเผื่อที่จะไปสอบเข้าเรียน ป. 1
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลการศึกษา ได้ที่เว็บไซต์นี้
การเรียนสายคาทอลิก คืออะไร และส่งผลดีอย่างไร
การเรียนสายคาทอลิก หลายคนก็คงได้ยินชื่อมาบ้างแล้ว ซึ่ง การเรียนสายคาทอลิก นั้นคือการเรียนแนวทางด้านวิชาการ โดยเน้นในเรื่องของการอ่านออกเขียนได้เป็นหลัก และรวมไปถึงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ได้ออกมานั้นค่อนข้างจะเข้มงวดนิดหนึ่ง
แต่โดยรวมแล้ว หากจบจาก โรงเรียนสายคาทอลิก นี้ไป พวกเขาก็จะมีระเบียบวินัยรวมไปถึงเรื่องของเวลา ที่สามารถรับผิดชอบได้อย่างดี
การเรียนสายคาทอลิก หล่อหลอมความเป็นผู้นำ และช่วยสร้างระเบียบวินัย
ซึ่ง การเรียนสายคาทอลิก ก็เหมือนเป็นการสร้างพลังในตัวเด็ก ที่ต้องได้เรียนรู้ในเรื่องของความอดทน ความยากลำบาก ความแกร่ง ที่พวกเขาต้องเจอนอกจากการเรียนในด้านวิชาการด้วย สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยหล่อหลอมลูกของเราให้เขามีความเป็นผู้นำ สุขุม รอบคอบ และเมื่อเวลาที่เจอกับปัญหาหรือเรื่องที่ทำให้เขาลำบาก เขามักจะผ่านมันได้เสมอ อีกทั้งในเรื่องของการสอนให้เด็กรู้จักนอบน้อมถ่อมตน สอนให้เป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เมื่อพวกเขาโตขึ้นก็จะมีสิ่งนี้ติดตัวไปตลอดชีวิต
ถึงแม้ว่า การเรียนสายคาทอลิก ดูเหมือนจะยาก แต่เด็กที่เขาเหมาะกับทางด้านนี้ รับรองว่าไม่น่าจะมีปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน ถึงการเรียนจะค่อนข้างหนักก็ตาม แต่พวกเขาก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน ซึ่งเด็กที่เข้ามาเรียนในด้านสายคาทอลิกนี้ได้ ก็ต้องมีการสอบเข้าเหมือนกัน หากพวกเขาสามารถที่จะสอบผ่านได้ด้วยฝีมือตนเอง พวกเขาก็สามารถที่จะเรียนในด้านนี้ได้อย่างสบายเลย
แต่ก็มีผู้ปกครองบางคนก็อยากจะให้ลูกของตัวเองมาเรียนสายคาทอลิก แต่การที่จะเรียนด้านนี้ได้ก็ต้องมีพื้นฐานการเรียนที่ค่อนข้างดีมาก่อนอยู่แล้ว มิใช่ว่าลูกของเราไม่ถนัดในด้านของวิชาการแต่ก็อยากจะส่งให้เรียน และมักคิดว่าเด็กสามารถที่จะรับมือกับเรื่องนี้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดมากเพราะจะทำให้เขาไม่มีความสุขกับการเรียน หากเป็นเช่นนี้รับรองว่าพวกเขาก็จะไม่มีความสุขกับการเรียนเลย เพราะเขาไม่ได้ถูกฝึกมาทางสายนี้ อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในภายภาคนี้ได้
ติดตามข้อมูลด้านการศึกษาที่เป็นประเด็นสำคัญ ข่าวการศึกษาไทย ได้ที่เว็บไซต์นี้
วิธีรับมือกับการบูลลี่ ในโรงเรียน การแก้ปัญหาการบูลลี่การโดนกลั่นแกล้ง!!
ไม่ว่าขณะนี้คุณจะเป็นใคร นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือพ่อแม่ผู้ปกครอง คงเคยได้ยินข่าวการบูลลี่ในโรงเรียนมามากมาย หรือแม้แต่อาจเคยมีประสบการณ์เจ็บช้ำน้ำใจ
การแก้ปัญหาการบูลลี่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร คำตอบแรกก็คือเลิกทนและเรียนรู้วิธีแก้ไขอย่างถูกต้อง
การแก้ปัญหาการบูลลี่ ในโรงเรียน
การบูลลี่ วิจัยมาแล้วว่าเด็กไทยโดนบูลลี่หรือถูกเพื่อนกลั่นแกล้งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ดังนั้นมาช่วยกันลดการบูลลี่ในไทยกันเถอะครับ
การแก้ปัญหาการบูลลี่ อันดับแรก คือ ลดความเครียด ถ้าโดนเพื่อนแกล้ง ทำไงดี? อันดับแรกก็คือต้องลดความเครียดและเบี่ยงเบนความคิดด้อยค่าที่รู้สึกเมื่อถูกกลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่างๆ ที่ตัวเองชื่นชอบ เช่น ฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร ออกกำลังกาย หรือออกไปเที่ยว
การแก้ปัญหาการบูลลี่ อันดับที่สอง คือ การรักตัวเอง ไม่ว่าเราจะเป็นใครหรือเป็นอย่างไร เราควรรักและยอมรับในสิ่งที่เราเป็น เราไม่ได้ทำอะไรผิด ใครไม่รักไม่ชอบไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่เป็นปัญหาของเขา ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์มาทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับตัวเองครับ
การแก้ปัญหาการบูลลี่ อันดับที่สาม คือ แสดงความรู้สึก การแสดงออกถึงความไม่พอใจรวมถึงสื่อสารว่ารู้สึกอย่างไรกับการโดนบูลลี่ จะทำให้ผู้ที่กลั่นแกล้งรับรู้ถึงความไม่พอใจและตระหนักในผลกระทบที่อีกฝ่ายได้รับ มีแนวโน้มที่จะลดพฤติกรรมไม่ดีลง ในทางกลับกันหากเอาแต่ทน ผู้ที่กลั่นแกล้งก็จะยิ่งได้ใจและกระทำซ้ำๆ ต่อไป
การแก้ปัญหาการบูลลี่ อันดับที่สี่ คือ ร้องเรียน ถูกกลั่นแกล้ง ควรร้องเรียนครูอาจารย์ที่โรงเรียนรวมถึงผู้ปกครองให้รับทราบ เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขอย่างตรงจุด ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรสอนลูกให้สู้คนครับ
การแก้ปัญหาการบูลลี่ อันดับที่ห้า คือ การมีไอดอล ที่มีลักษณะเหมือนกันกับเรา (ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิด นักร้อง นักแสดง คนดังในสังคม) เช่น ผิวคล้ำเหมือนกัน อ้วนเหมือนกัน ฐานะทางบ้านไม่ดีเหมือนกัน จะทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้อยู่ลำพัง ไม่ได้ถูกกลั่นแกล้งอยู่คนเดียว รู้สึกมีค่ามากขึ้นด้วย
ซึ่งไอดอลที่มีลักษณะเหมือนเรา เขาสามารถก้าวผ่านการถูกบูลลี่และมีชีวิตที่สดใสประสบความสำเร็จได้ เราก็ต้องทำให้ได้อย่างเขา
การแก้ปัญหาการบูลลี่ อันดับที่หก คือ การไม่บูลลี่ต่อ การบูลลี่ก็เหมือนกับโดมิโน เมื่อใครถูกกลั่นแกล้งแล้วก็มีแนวโน้มที่จะกลั่นแกล้งผู้อื่นต่อไปเป็นทอดๆ เพื่อปลดปล่อยความคับแค้นเจ็บปวดของตน ซึ่งมีแต่จะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลการศึกษา ได้ที่เว็บไซต์นี้
การบูลลี่ คืออะไร? มาทำความเข้าใจเพื่อลดการบูลลี่ในสังคมไทยกัน
สังคมจะดีได้ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ผู้คนต้องไม่ทำร้ายกันทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ดังนั้นเรามาช่วยกันหยุดการบูลลี่ในสังคมไทยกันเถอะครับ
- บูลลี่ คืออะไร?
การบูลลี่ คือ พฤติกรรมการกลั่นแกล้งข่มเหงที่ใช้ความรุนแรงด้วยคำพูดหรือการกระทำ ซึ่งสร้างผลกระทบให้ผู้ที่ถูกกระทำเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ
ประเภทของการบูลลี่
การบูลลี่ ด้วยคำพูด คือ การใช้คำพูดที่รุนแรงทำร้ายจิตใจ (เช่น เย้าแหย่ ล้อเลียน ดูถูก) อาจเป็นการบูลลี่รูปร่างลักษณะหรือล้อเลียนรูปลักษณ์ภายนอก เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง เชื้อชาติ เพศ ลักษณะภายนอกที่ไม่ตรงกับเพศสภาพ สีผิว ลักษณะผิวหนัง แผลเป็น หรือแม้แต่ความพิการ
การบูลลี่ ด้วยกำลัง คือ การใช้กำลังทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บหรืออาจถึงแก่ชีวิต
การบูลลี่ ทางสังคม คือ การแบ่งชนชั้นหรือกีดกันทางสังคมในสถานที่ต่างๆ เช่น การแบ่งแยกลูกคนรวยกับลูกคนจนในสถานศึกษา การกดดันให้ต้องออกจากกลุ่มหรือชมรม การโดนกลั่นแกล้งจากหัวหน้างานในที่ทำงาน
การบูลลี่ ทางโลกโซเชียล คือ การประจานหรือใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้เกิดความอับอายหรือเสื่อมเสียในโลกโซเชียล ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในยุคนี้
- สาเหตของการบูลลี่
1. มีความบกพร่อง ความจริงก็คือผู้ที่ชอบบูลลี่หรือกลั่นแกล้งผู้อื่นก็คือผู้ที่มีความบกพร่องทางจิตใจ เช่น อีโก้สูงเกินไป อาจเคยถูกบูลลี่มาก่อน มีปมด้อยบางอย่าง (เช่น หน้าตาไม่ดี ยากจน เรียนไม่เก่ง) จึงต้องการระบายอารมณ์กับผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ที่ตนเห็นว่าด้อยกว่า อ่อนแอกว่า หรือไม่โต้ตอบ
2. ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมที่นิยมอารมณ์ขันและความบันเทิง ดังนั้นจึงอาจ “พลาด” และ “เผลอ” บูลลี่ผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน สร้างสีสันให้แก่วงสนทนา รวมถึงอาจคิดเองเออเองว่าผู้ที่ถูกพาดพิงหรือถูกกลั่นแกล้งไม่รู้สึกอะไร ดังนั้นข่าวการบูลลี่ การบูลลี่ในโรงเรียนหรือในที่ทำงาน จึงมีให้เห็นทั่วไปจนกลายเป็นความเคยชินครับ
- ผลกระทบของการบูลลี่ที่ส่งผลร้ายแรง
– การรู้สึกด้อยค่า ไร้ความมั่นใจ ไร้ความนับถือในตัวเองมากขึ้น
– การมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงหรือพึ่งพายาเสพติดในการแก้ไขปัญหา
– การมีแนวโน้มที่จะบูลลี่ผู้อื่นต่อไปเป็นทอดๆ เพื่อบรรเทาความคับแค้นใจของตน
– การมีแนวโน้มไปสู่โรคซึมเศร้าและการฆ่าตัวตายในที่สุด
เพราะฉะนั้นเมื่อรู้แล้วว่าผลกระทบของ การบูลลี่ สาหัสสากรรจ์เพียงใด เราก็ไม่ควรนำตัวเองให้เป็นผู้สร้างการบูลลี่ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมระดับไหนก็ตาม รวมถึงต้องไม่ยอมให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของการถูกบูลลี่ และตระหนักในการแก้ปัญหาการบูลลี่ในสังคมให้มากขึ้นอีกด้วยครับ
ติดตามข้อมูลด้านการศึกษาที่เป็นประเด็นสำคัญ ข่าวการศึกษาไทย ได้ที่เว็บไซต์นี้
ปัญหาการศึกษา ที่มาจากความไม่เท่าเทียมกัน
โรงเรียนในตัวเมืองกับโรงเรียนบริเวณชานเมืองหรือชนบทนั้น คุณคิดว่าเหมือนกันหรือไม่? ทุกคนก็คงจะมีคำตอบอยู่ในใจกันแล้ว ซึ่งใครๆก็คงคิดว่าไม่เหมือนกันด้วยสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก จำนวนนักเรียน หนังสือเรียน อุปกรณ์ในการศึกษา แม้กระทั่งการเรียนการสอนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งมันคือปัญหาในสังคมก็ว่าได้ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กๆ เพราะ ปัญหาการศึกษา ไม่ได้รับความเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ปิดกั้นความรู้ ความสามารถในการพัฒนาของเด็กๆได้ ทั้งนี้ความไม่เท่าเทียมทำให้เด็กๆเกิดปัญหามากมาย
ปัญหาการศึกษา ที่ทุกคนอาจมองข้ามไป
ปัญหาการศึกษา ปัญหาข้อแรก คือ มีแต่ความรู้ แต่ไม่ได้ลงมือทำ ในหลายโรงเรียนแทบชนบทหรือชานเมือง จะมีการเข้าถึงของการศึกษาที่ค่อนข้างน้อยมากๆ ทำให้อุปกรณ์หรือสิ่งที่อำนวยความสะดวกในการเรียนของเด็กๆจะมีน้อยจนถึงขั้นที่ไม่มีเลย ต่อให้เด็กมีความรู้มากแค่ไหน แต่ถ้าหากเด็กมีความรู้แต่ไม่สามารถลงมือปฏิบัติหรือนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ ความรู้ที่สั่งสมมาก็ไร้ซึ่งประโยชน์
ปัญหาการศึกษา ปัญหาข้อที่สอง คือ โอกาส ซึ่งเป็นสิงที่สำคัญมากๆสำหรับตัวเด็กๆ เพราะจะทำให้พวกเขามีอนาคตที่ดี แต่ว่าโรงเรียนในชนบทกลับได้รับโอกาสที่น้อยกว่าโรงเรียนในเมือง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการสอบเข้าในมหาวิทยาลัยต่างๆ โอกาสที่จะได้รับความรู้ในอาชีพการงานในอนาคต เพื่อให้พวกเขาได้รู้ตัวตนและสิ่งที่ตนเองชอบ เป็นต้น
ปัญหาการศึกษา ปัญหาข้อที่สาม คือ จำนวนคุณครูที่น้อย โรงเรียนในเมืองที่ทุกคนเห็นและเป็นที่รู้จัก มักจะมีจำนวนคุณครูที่มากและคุณครูในแต่ละคนก็จะมีความถนัดในแต่ละวิชา สอนในวิชาของตนเอง แต่ในส่วนของโรงเรียนในชนบทกลับแตกต่างกัน เนื่องด้วยความไกลจากในตัวเมืองทำให้คุณครูหรือผู้คน มักจะไม่เห็นหรือรู้จักกับโรงเรียนนั้น รวมไปถึงจำนวนคุณครูที่มีค่อนข้างน้อย และคุณครู 1 คนมักจะสอนในหลายๆวิชา ทำให้เด็กอาจจะเรียนรู้ได้ไม่ละเอียดมากเท่าที่ควร
ปัญหาการศึกษา ปัญหาข้อที่สี่ คือ ค่าใช้จ่าย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งใช่ว่าพ่อแม่ไม่อยากจะส่งลูกของตนเองไปในโรงเรียนที่ดีๆ แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงและมากมาย จึงทำให้เด็กหลายๆคนมักจะไม่มีโอกาสได้เรียนในโรงเรียนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อม หรือบางคนถึงขั้นที่ไม่มีโอกาสได้เรียนเลยด้วยซ้ำ
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลการศึกษา ได้ที่เว็บไซต์นี้