Home » Search results for 'อ่านหนังสือ'

Search Results for: อ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือ แบบจำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

                การอ่านหนังสือ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ผลการเรียนออกมาดี แต่ก็มีใครหลายคนที่พยายามอ่านเท่าไหร่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง อ่านไม่เข้าใจ หรือพยามยามอ่านแล้วก็ยังรู้สึกว่าทำผิด ๆ ถูก ๆ หรือต่อให้อ่านแล้ว จำได้แล้ว แต่สุดท้ายพอมาหลัง ๆ ก็ลืมหมด ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีการอ่านหนังสือที่เรียกได้ว่า เหมาะกับคนขยัน และสามารถการันตีว่าจะสามารถจำได้อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน ซึ่งวิธีการอ่านมีดังต่อไปนี้

การอ่านหนังสือ

            4 ขั้นตอน การอ่านหนังสือ อย่างไรให้จำแม่นเหมาะกับคนขยัน

  • อ่านครั้งแรกโดยการไฮท์ไลท์สิ่งสำคัญ

ในครั้งแรกให้ทำการอ่านแบบเรื่อย ๆ และเมื่อเห็นว่าเนื้อหาส่วนไหนสำคัญก็ไฮท์ไลท์ไว้ก่อน โดยไม่ต้องสนใจว่าจะจำได้หรือไม่ได้ ให้ทำแบบนี้ไปทั้งบทให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยอาจกำหนดไฮท์ไลท์แต่ละสีว่าหมายถึงอะไรก็ได้ เช่น สีชมพู คือ เน้นเนื้อหาที่สำคัญแบบให้ความหมาย สีเขียว เน้นเนื้อหาที่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ สีม่วง คือ เน้นเนื้อหาที่เชิงไม่ใช่หรือปฏิเสธ สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ในหัวจำได้ง่ายขึ้น และเราจะแยกเนื้อหาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

  • อ่านครั้งที่สองอ่านแค่เฉาะไฮท์ไลท์

คราวนี้ลองอ่านเฉพาะในส่วนที่ไฮท์ไลท์ โดยพยายามใส่ความเข้าใจลงไปด้วย ถ้าเป็นไปได้ลองเขียนโน้ตจากที่ไฮท์ไลทืมาเป็นภาษาของตัวเองระหว่างการอ่านด้วยก็ได้ ในส่วนนี้พยายามอ่านให้ละเอียดที่สุด

  • นำเนื้อหาจากไฮท์ไลท์มาสรุปโน้ตแบบเข้าใจง่าย ๆ

ต่อมาให้นำสิ่งที่ไฮท์ไลท์มาสรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ ซึ่งจริง ๆ ก็คือ เอาสิ่งที่เราเขียนโน้ตไว้มาใส่ได้ พยายามเขียนให้เข้าใจง่าย กระชับ และสามารถเห็นภาพรวมได้ภายในแผ่นเดียว จากนั้นแนะนำให้อ่านทวนจากสรุปสัก 1 – 2 ครั้ง

  • นำกระดาษ A4 มาเขียนสิ่งที่ได้อ่านทั้งหมดแบบไม่ดู

ในส่วนสุดท้ายคือการย้ำเตือนความจำของตัวเอง โดยการให้นำกระดาษเปล่ามา และเขียนทุกอย่างที่เราพอจะนึกออกจากการอ่านบทเรียนเหล่านั้น โดยที่ห้ามแอบมองหรือเปิดดูหนังสือเลย เขียนเท่าที่จำได้ อันไหนจำไม่ได้ให้เว้น จากนั้นค่อยมาอ่านทวน

การอ่านหนังสือ

เทคนิคการอ่านหนังสือ ที่เด็กเรียนระดับหัวกะทิเขานิยมใช้กัน

เคยสงสัยบ้างไหมว่า เด็กนักเรียนที่เขาทำคะแนนได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย เขามี เทคนิคการอ่านหนังสือ อย่างไร ถึงได้เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนดีจริงๆ แถมตอนทำข้อสอบก็เหมือนกับว่าจะอ่านมาตรงเนื้อหาแบบพอดิบพอดี ทั้งที่มีเวลาก็ไม่มากไม่น้อยไปกว่ากันเท่าไร

วันนี้เราจะขอแนะนำ เทคนิคการอ่านหนังสือ เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่หัวกะทิเขาใช้แล้วได้ผลดีเยี่ยมมาฝากกัน รับรองว่าทำตามได้ง่าย ไม่ว่าใครก็ทำได้แน่นอน

เทคนิคการอ่านหนังสือ

เทคนิคการอ่านหนังสือ ที่ต้องมีเป้าหมายในการอ่าน

เทคนิคการอ่านหนังสือ ข้อแรกเลยก็คือ ไม่อ่านละเอียดในส่วนที่ไม่สำคัญ ส่วนใหญ่แล้วเด็กหัวกะทิรวมถึงคนเป็นหนอนหนังสือ จะมีทักษะการอ่านที่ค่อนข้างรวดเร็ว เขาจะใช้วิธีการอ่านแบบสแกนที่ต้องกวาดสายตาแบบเร็วๆ จากซ้ายไปขวา

โดยไม่จำเป็นต้องอ่านแบบเจาะลึกถึงตัวอักษร แค่มองผ่านก็พอรู้ได้ว่าเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร พอถึงจังหวะที่เนื้อหาเข้มข้น ก็แค่ชะลอความเร็วลงเพื่อเก็บรายละเอียด แบบนี้จะลดเวลาอ่านหนังสือไปได้เยอะมาก

เทคนิคการอ่านหนังสือ ที่ต้องมีเป้าหมายในการอ่าน

            เทคนิคการอ่านหนังสือ ประเด็นต่อมา คือ การอ่านต่อเนื่อง ที่ถือได้ว่าเป็นเทคนิคการอ่านอันยอดเยี่ยม และยังเป็นการกระทำที่สวนทางกับหลายๆ คนอีกต่างหาก ก็คือเด็กหัวกะทิเขาจะไม่อ่านไปจดไป แม้แต่ลงสีไฮท์ไลท์ก็ไม่ทำ

แต่จะทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการอ่านอย่างรวดเร็ว อ่านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แล้วก็อ่านอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจบบทหรือจบตอนสำคัญ จากนั้นพักการอ่านไว้สักครู่ แล้วค่อยจดบันทึกตามความเข้าใจลงในสมุดโน้ตอีกที รวมถึงทำไฮท์ไลท์ในจุดที่ต้องการเพื่อย้ำเอาไว้อ่านซ้ำด้วย

เทคนิคการอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือที่ไม่ใช่ตำราเรียน

           เทคนิคการอ่านหนังสือ ข้อสุดท้าย คือ การอ่านหนังสือที่ไม่ใช่ตำราเรียน ตรงนี้ต้องบอกว่ามันเป็นเทคนิคการอ่านที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้ผู้เรียนได้มาก อย่างถ้าเรียนดาราศาสตร์แล้วได้มาอ่านหนังสือนอกเวลาที่เกี่ยวกับโลก ดวงดาว และจักรวาล มันจะช่วยให้เข้าใจและมองเห็นภาพยิ่งขึ้น

ซึ่งก่อนจะมาอ่านหนังสือนอกเวลาแบบนี้ได้ ก็ต้องฝึกอ่านเร็วจนอ่านตำราเรียนได้จบเสียก่อน นอกจากนี้ผู้อ่านยังต้องเลือกหนังสือเสริมที่ได้คุณภาพ เรียบเรียงให้อ่านได้ง่าย และเนื้อหาก็เชื่อถือได้อีกด้วย

ติดตามข่าวสาร ข่าวการศึกษาไทย ที่เราได้นำมาให้คุณถึงที่ในเว็บไซต์นี้

ข้อมูลด้านการศึกษาไทย และข่าวในแวววงการศึกษาที่เรามาอัพเดตข้อมูลให้คุณได้รู้ที่ www.arab-games.net รวมทั้งเทคนิคการอ่านหนังสือและการสอบในระดับต่างๆ และถ้าคุณอยากมีรายได้เข้ากระเป๋า โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิน เพียงแค่กดเข้ามาที่ GCLUB88888 รีบๆกันหน่อยนะ

ท่าบริหารสมองแบบ Brain Gym ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในช่วงอ่านหนังสือสอบ

  Brain Gym คืออะไร และเกี่ยวข้องกับกับเด็กวัยเรียนอย่างไร อันที่จริงแล้ว Brain Gym ก็คือกายบริหารอย่างง่าย ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเน้นกระตุ้นให้ใช้สมองอย่างเต็มที่ เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้

ท่าบริหารสมองแบบ Brain Gym ช่วยเสริมสร้างการได้ยินทำให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น ช่วยคลายความเครียด ทำให้จิตใจสงบมีสมาธิ ลดอาการตื่นเต้นมากเกินไป กระตุ้นให้สมองทำงานได้ดี สมองจะได้รับเลือดมากยิ่งขึ้น และทำให้สมองได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง  

Brain Gym

Brain Gym ท่าบริหารสมองทั้ง 2 ซีก ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งดร. พอล เดนนิสัน นักประสาทวิทยา ชาวอเมริกัน เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา โดยคิดท่ากายบริหารนี้ 26 ท่า ซึ่งเป็นท่าบริหารที่ครอบคลุมการดูแลสมองทั้งสองซีกด้วย

Brain Gym ท่าบริหารสมองสำหรับเด็กวัยเรียน ท่าแรก ก็คือ ท่าดึงไหล่เป็นท่าที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของหลัง และไหล่ช่วงบนได้ด้วย ประโยชน์ของการบริหารสมอง ช่วยผ่อนคลายความเครียดของสมองทั้งสองส่วน หน้าและหลัง และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ 

Brain Gym ท่าบริหารสมองทั้ง 2 ซีก ได้เป็นอย่างดี

วิธีบริหารสมองในท่าดึงไหล่

  • อยู่ในท่านั่งนำมือขวามาจับที่ไหล่ซ้าย ระหว่างนั้นก็ให้หายใจเข้าช้า ๆ ขณะที่สายตาเราก็มองตามมือขวาที่กำลังดึงไหล่ซ้ายเข้ามาชิดลำตัว และเมื่อไหล่ซ้ายชิดลำตัวแล้ว ให้หันหน้าไปทางขวา
  • ขณะที่เราหันหน้าไปทางขวาให้ออกเสียงว่า “อู” แบบยาว ๆ
  • จากนั้นเปลี่ยนมาทำอีกมือ โดยทำแบบเดิม

Brain Gym ท่าบริหารสมองสำหรับเด็กวัยเรียน ท่าที่สอง ก็คือ ท่าเอียงข้อศอกแตะหัวเข่า เป็นอีกท่าที่จะช่วยในการถ่ายข้อมูลของสมองทั้งสองซีกให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Brain Gym ท่าบริหารสมองที่น่าสนใจ

วิธีบริหารสมองในท่าเอียงข้อศอกแตะหัวเข่า

  • เริ่มจากท่านั่งกับพื้น โดยให้ชันเข่าขึ้น ปลายเท้าทั้งสองยังแตะพื้น และขาทั้งสองชิดกัน
  • ให้ประสานมือทั้งสองที่ท้ายทอย
  • จากนั้นให้เอียงข้อศอกซ้ายมาแตะจนชิดเข่าขวา พอชิดแล้วก็นำข้อศอกซ้ายกลับไปยังตำแหน่งเดิม
  • ต่อมาก็ให้เอียงข้อศอกขวามาแตะจนชิดเข่าซ้าย แล้วทำเช่นเดิม โดยทำสลับกันไปเช่นนี้หลาย ๆ ครั้ง

Brain Gym ท่าบริหารสมองสำหรับเด็กวัยเรียน ท่าที่สาม ก็คือ ท่าปิดตา ท่านี้ควรทำก่อนการอ่านหนังสือ หรือทำงานที่ต้องใช้สมาธิก็จะดีมาก เพราะจะทำให้ผ่อนคลายจากความเครียด และมีสมาธิมากขึ้น

Brain Gym ท่าบริหารสมองสำหรับเด็กวัยเรียน

 วิธีบริหารสมองในท่าปิดตา

  • ให้ใช้มือทั้งสองข้างมาปิดตาเบา ๆ ให้สนิท ขณะที่ดวงตาของเราก็ยังลืมอยู่
  • เมื่อรู้สึกว่าปิดตาจนมองไม่เห็นแล้ว และรู้สึกถึงสีดำสนิท ก็ให้นำมือออกได้
  • จากนั้นก็ปิดตาใหม่และทำเช่นนี้อีก

ติดตามข่าวสาร ข่าวการศึกษาไทย ที่เราได้นำมาให้คุณถึงที่ในเว็บไซต์นี้

เรามีข้อมูลด้านการศึกษาที่ให้คุณได้รู้ที่ arab-games.net เพราะการศึกษาไทยมีส่วนสำคัญของเด็กในปรพเทศ เราจึงต้องนำข่าวสารดีมาอัพเดตทั้งการศึกษาในระดับประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย และมหาลัย และถ้าคุณอยู่บ้านเหงาๆ อย่าหากิจกรรมสนุกๆทำ เข้ามาที่ gclub1688 เว็บไซต์ที่รวบรวมความบันเทิงให้ได้ร่วมสนุกคุณตลอด 24 ชั่วโมง

สุดยอด!! เทคนิคอ่านหนังสือสอบ ที่เข้าใจเนื้อหาอย่างรวดเร็ว

หากนักเรียนนักศึกษาได้ฝึกพัฒนาทักษะการอ่านเร็ว ก็จะช่วยพัฒนาสมองให้ฉับไวและมีสมาธิ เพราะระหว่างที่เราอ่านเร็ว ๆ อยู่นั้น จิตใจเราจะจดจ่อจนเกิดสมาธิ และต้องไม่ตื่นเต้นลนลานกลัวว่าจะอ่านไม่ทัน อ่านไม่รู้เรื่อง

ซึ่งวันนี้ ขอแนะนำ เทคนิคอ่านหนังสือสอบ ที่จะช่วยให้เราได้รู้จักกับทักษะการอ่านเร็ว ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ โดยเฉพาะการอ่านหนังสือเพื่อสอบซึ่งอาจไม่มีเวลาอ่านมากพอ แต่เราก็ยังสามารถจับความจากการอ่านเร็ว ๆ มากได้พอสมควร

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ ที่จะช่วยให้เราจับใจความสำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ เทคนิคแรกที่อยากแนะนำ ก็คือ ฝึกทักษะการอ่านเร็วจากสิ่งรอบตัว เราควรลองฝึกอ่านเร็ว ๆ จากสิ่งที่ผ่านตาเราไปอย่างรวดเร็วก่อน ซึ่งสิ่งนั้นอาจเป็นเพียงป้าย หรือข้อความที่ไม่ยาวนัก

แล้วดูสิว่าเราสามารถจับใจความ หรือพอเดาได้ว่ามันสื่อถึงเรื่องอะไร โดยเฉพาะยามที่เรานั่งรถ เราก็น่าจะลองมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วดูว่าเราเห็นป้ายอะไรบ้าง แม้ว่าในตอนแรกเราแทบจะอ่านไม่ทัน แต่หากได้ทำเช่นนี้เป็นประจำ เราก็พอจะจับความได้ และเกิดความเคยชินจนสามารถฝึกการอ่านเร็วได้เก่งขึ้น

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ ที่จะช่วยให้เราจับใจความสำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ เทคนิคที่สองที่อยากแนะนำ ก็คือ กำจัดสิ่งรบกวนก่อนฝึกทักษะการอ่านเร็ว บ่อยครั้งที่การอ่านอย่างเร็ว ๆ ของเราก็ขาดประสิทธิภาพ เพราะเรามัวแต่สนใจสิ่งรอบข้างที่ไม่เกี่ยวข้อง

ซึ่งสิ่งนี้ก็จะคอยรบกวนสมาธิเรา ดังนั้นเราจึงควรกำจัดสิ่งที่คอยรบกวนใจออกไปให้ได้ โดยเฉพาะ การรับสื่อต่าง ๆ ที่จะคอยกวนใจเราตลอดเวลา เช่น ทีวี วิทยุ อินเทอร์เน็ต นั่นก็เพราะเราไม่ควรฟังหรือดูสิ่งเหล่านี้ขณะที่เราต้องอ่านเร็วไปด้วยได้ ทางที่ดีก็คือปิดสื่อเหล่านั้นเสียแล้วมุ่งสมาธิไปที่การอ่านอย่างเดียวเท่านั้น

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ กำจัดสิ่งรบกวนรอบตัว

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ เทคนิคที่สามที่อยากแนะนำ ก็คือ สังเกตหนังสือที่อ่านก่อนการฝึกการอ่านเร็ว ก่อนที่จะอ่านเร็วให้ได้นั้นเราควรสังเกตหนังสือต่าง ๆ ให้ได้หลากหลายประเภท เพราะหนังสือที่มีเนื้อหาหรือต่างประเภทกันก็มักจะมีเอกลักษณ์ ธรรมชาติ หรือรูปแบบที่ต่างกันไปด้วย

โดยการสังเกตความแตกต่างนี้ก็จะช่วยให้เราอ่านได้เร็วขึ้น และเข้าใจมากขึ้นด้วย เนื่องจากเราจะจดจำโครงสร้างของหนังสือนั้นได้ เช่น ตำราเรียนหรือคู่มือ ก็มักจะมีหัวข้อต่าง ๆ ดัชนี เชิงอรรถ บรรณานุกรมที่เราอาจจำเป็นต้องใช้

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ สังเกตหัวข้อและประเด็นที่สำคัญ

เทคนิคอ่านหนังสือสอบ เทคนิคที่สี่ที่อยากแนะนำ ก็คือ จับเวลาในการฝึกทักษะการอ่านเร็ว เราอาจลองจับเวลาการอ่านของเรา โดยอ่านเรื่องเดิม ๆ นั้นแหละ จากนั้นมาดูกันว่าสถิติเวลาของเราเร็วหรือช้าอย่างไรบ้าง

ซึ่งตามปกติแล้วก็น่าจะอ่านได้เร็วขึ้น แต่หากอ่านได้ช้าลงกว่าเดิมมาก ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากการที่เราขาดสมาธิเสียมากกว่า

ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน

บทความดีๆที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับระบบการศึกษาไทย ที่เรานำมารวบรวมข้อมูลอย่างเจาะลึกและรูปแบบการศึกษาไทยที่ยังมีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ไม่ควรพลาด arab-games.net และหนึ่งเดียวในรูปแบบการเดิมพันออนไลน์ที่ทันสมัย มีโปรโมชั่นมาให้คุณอย่างจุใจที่ Gclub1688 เพราะเราไม่อยากให้คุณพลาดความสนุกที่เราคัดสรรมาไว้ให้คุณ รีบๆเข้ามาร่วมสนุกกันนะ

นิสัยการอ่านหนังสือ ที่สามารถช่วยทายแนวโน้มการเรียนได้

ด้วยคำถามจิตวิทยาเหล่านี้ จะช่วยให้เรารู้ว่าตัวตนของเราเป็นอย่างไร โดยผ่านนิสัยการอ่านหนังสือ และยังสามารถทายแนวโน้มที่เกี่ยวกับการเรียนได้ด้วย

นิสัยการอ่านหนังสือ

นิสัยการอ่านหนังสือ ที่ช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น

นิสัยการอ่านหนังสือ นิสัยแรก ก็คือ ติดนิสัยชอบพับขอบหนังสือ หากเรานิยมพับขอบหนังสือเวลาที่อ่านหนังสือไม่จบ ไม่ชอบใช้ที่คั่นหนังสือ แสดงว่า เป็นคนสะเพร่า ไม่เรียบร้อย หากชอบอะไรก็จะจริงจังหมกมุ่น แต่ระหว่างนั้นก็จะลืมทุกสิ่งรอบตัว  

  • แนวโน้มการเรียน : มักจะตกม้าตาย ทำข้อสอบได้แต่ดันกาข้อผิด หรืออ่านโจทย์ผิดชีวิตเปลี่ยน

นิสัยการอ่านหนังสือ นิสัยที่สอง ก็คือ อ่านเฉพาะเรื่องที่สนใจเท่านั้น ถ้าเราชอบอ่านเฉพาะเรื่องที่สนใจเท่านั้น แสดงว่าแม้จะเป็นคนใจดี แต่ก็มีความเป็นเด็กมาก ชอบเอาแต่ใจตัว ไม่ค่อยคิดถึงจิตใจคนอื่นเพราะความไม่รู้  นอกจากนี้ยังไม่ค่อยมีใครเข้าใจ เพราะไม่เก่งเรื่องการอยู่ร่วมกับคนอื่น

  • แนวโน้มการเรียน : เรียนแบบผ่าน ๆ ไม่เน้นเกรดไม่ดีแต่ไม่ซีเรียส และเรียนแล้วเข้าใจแต่ไม่ลึกซึ้ง  
นิสัยการอ่านหนังสือ ที่ช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น

นิสัยการอ่านหนังสือ นิสัยที่สาม ก็คือ อ่านหนังสือทุกหน้า ถ้าเราอ่านได้ทุกหน้า ก็แสดงว่าเราเป็นคนที่เปิดกว้าง เข้าใจคนอื่นได้ดี จริงใจจริงจัง และยังเป็นคนที่ทุ่มเทเพื่อคนอื่นด้วย   

  • แนวโน้มการเรียน : รู้ลึกรู้จริง อ่านละเอียด ลงรายละเอียดทุกอย่างจนบางครั้งอ่านมากจนหนักสมอง

นิสัยการอ่านหนังสือ นิสัยที่สี่ ก็คือ เปิดอ่านหนังสือคร่าว ๆ หากเราชอบเปิดหนังสืออ่านแบบข้าม ๆ คร่าว ๆ แสดงว่าเป็นคนที่ใจร้อนบุ่มบ่าม ไม่รอบคอบ ไม่มีแผนการ ทำอะไรตามใจฉัน และไม่สนใจรายละเอียดหรือเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย เพราะสนใจแต่เรื่องสำคัญ ๆ เท่านั้น 

  • แนวโน้มการเรียน : เรียนรู้ได้เร็วแต่ไม่แน่น และไม่ค่อยมีสมาธิหากต้องเรียนอะไรนาน ๆ    
นิสัยการอ่านหนังสือ ถ้าชอบอ่านทุกหน้าเป็นคนที่มีความละเอียด

นิสัยการอ่านหนังสือ นิสัยที่ห้า ก็คือ ชอบขีดเขียนในหนังสือ ถ้าเรามีนิสัยชอบขีดเขียนในหนังสือ หนังสือนี่เลอะเทอะไปหมด ชอบทำสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายช่วยจำต่าง ๆ (ไม่ใช่วาดการ์ตูนเล่น) แบบนี้ก็จะแสดงว่าเป็นคนที่ชอบการทำงานและทำได้ดี มีความมุ่งมั่น จริงจัง ไม่ชอบออกนอกทางเพราะทำให้เสียเวลา และก็เป็นคนที่ยึดมั่นถือมั่นมากด้วย

  • แนวโน้มการเรียน : เก็บทุกรายละเอียดในการอ่าน จึงมีผลการเรียนที่ดี และยังใส่ใจฟังคุณครูมากด้วย

นิสัยการอ่านหนังสือ นิสัยที่หก ก็คือ ชอบออกเสียงตอนอ่านหนังสือ ถ้าเราชอบออกเสียงตอนอ่านแสดงว่าเป็นคนที่ไม่ชอบทำตัวเด่น ไม่ใช่คนที่ภาคภูมิในในตนเองมาก แต่ก็เป็นคนที่รู้จักเคารพตนเองเคารพผู้อื่น มีจิตใจดี  ซื่อสัตย์ จริงใจ รักสงบ ไม่ใช่คนที่มีความลับมากมาย แต่เข้าได้ดีกับทุกคน 

  • แนวโน้มการเรียน : เรียนกลาง ๆ เอาตัวรอดได้ และมุ่งมั่นไปยังวิชาที่ชอบเป็นพิเศษ

ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน

เว็บไซต์ที่รวบรวมข่าวการศึกษาของไทย ทั้งด้านการศึกษาต่อในระดับต่างๆ และทุนการศึกษา การสอบและเทคนิคดีๆการอ่านหนังสือ เข้ามาที่ arab-games.net และอีกหนึ่งเว็บไซต์ยอดฮิตที่รวบรวมเกมสนุกๆไว้มากมาย ติดตามความมันส์ได้ที่ รวมสล็อตทุกค่ายในเว็บเดียว การันตีความสนุกแน่นอน!!

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ อ่านแล้วสมองไว และช่วยกระตุ้นความจำ

ในวัยเรียนวัยศึกษา การอ่านหนังสือไม่เพียงแต่ช่วยทบทวนเนื้อหาก่อนสอบเท่านั้น แต่การอ่านหนังสือยังดีต่อสมอง และช่วยกระตุ้นความจำได้เป็นอย่างดี 

ซึ่งบางคนก็อาจแย้งว่าถ้าเราอ่านหนังสือมาก ๆ ก็จะยิ่งทำให้สมองเหนื่อยล้ามากขึ้น แต่อันที่จริงแล้วสมองจะอยู่ในภาวะนั้นได้ หากอ่านมากเกินไปจริง ๆ และขาดการพักผ่อน

ขอแนะนำ ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ แต่ส่วนใหญ่แล้วปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอ่านหนังสือ หรืออ่านกันน้อยเสียมากกว่า ดังนั้นหันมาอ่านหนังสือกันให้เยอะ ๆ กันเถอะ

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ช่วยพัฒนาสมองและฝึกสมาธิ

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ประโยชน์ข้อแรกที่จะได้รับ ก็คือ ยิ่งอ่านยิ่งจำ หากเราได้อ่านหนังสือเรื่องเดิมหลาย ๆ รอบ แม้ว่าตอนแรกสมองของเราอาจจำได้น้อยมาก แต่ต่อมายิ่งอ่านซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เราก็จะพบว่าเราจำได้มากขึ้นจริง ๆ เหมือนว่าสิ่งนั้นได้ถูกบันทึกลงสมองเราไว้หมดแล้ว

และยิ่งอ่านมากขึ้นเท่าไร ในสมองของเราก็แทบจะเห็นเนื้อหานั้นปรากฏในหน้าหนังสือ จนเหมือนกับว่าเรารู้ว่าข้อความนั้นอยู่ในหัวข้อนั้น ๆ หรืออยู่ในบทใด  

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ โดยยิ่งอ่านยิ่งจำ

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ประโยชน์ข้อที่สองที่จะได้รับ ก็คือ พัฒนาสมองได้ทุกวัย แม้แต่เด็กออทิสติก หรือเด็กที่มีภาวะแอลดี (LD) หรือเกิดความผิดปกติในการเรียรู้ ก็ยังสามารถพัฒนาพฤติกรรมต่าง ๆ รวมทั้งและความสามารถแต่ละด้านได้

หากเขาได้อ่านหนังสือที่เหมาะสมกับเขาบ่อย ๆ แล้วนับประสาอะไรกับเด็กทั่วไปล่ะ ดังนั้นถ้าอยากพัฒนาสมองต้องอ่านหนังสือให้มากขึ้น

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ช่วยพัฒนาสมองและฝึกสมาธิ

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ประโยชน์ข้อที่สามที่จะได้รับ ก็คือ เกิดสมาธิเต็มที่ ขณะที่เราได้อ่านหนังสือ สมองของเราจะเกิดภาวะมีสมาธิ ซึ่งยามที่เรามีสมาธินี้สมองของเราจะลื่นไหลปลอดโปร่ง จึงจดจำได้อย่างเต็มที่

และแม้ว่าข้อมูลจะมากมายแต่เราก็จะไม่รู้สึกว่าหนักสมองเลย ดังนั้นถ้ารู้สึกว่ากำลังขาดสมาธิ ทำอะไรไม่ได้นาน การอ่านหนังสือก็จะช่วยได้มาก

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ได้ศัพท์มากขึ้น

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ประโยชน์ข้อที่สี่ที่จะได้รับ ก็คือ ได้ศัพท์มากขึ้น โดยเราจะได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ ยิ่งถ้าอ่านหนังสือได้หลากหลายแนว หรือเป็นแนวเฉพาะทาง เราก็จะได้เรียนรู้ศัพท์ที่ไม่ค่อยพบเจอในชีวิตประจำวัน ซึ่งการได้คำศัพท์จากการอ่านจะช่วยพัฒนาทักษะต่าง ๆ ดังนี้

  • บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าศัพท์นั้นหมายความว่าอะไร แต่จากบริบทใหม่รอบข้าง จะทำให้เราคาดเดาได้ว่าคำนั้นหมายถึงอะไร และนี่เองที่ช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ 
  • เราจะอ่านเขียนและใช้ศัพท์ได้อย่างถูกต้อง ทำให้การสื่อสารถูกต้องมีประสิทธิภาพ
  • การฝึกภาษาต่างประเทศก็เริ่มจากการมีศัพท์ในหัวนั่นเอง ยิ่งมีศัพท์ในหัวมากเราก็จะยิ่งกล้าพูดกล้าสื่อสาร

ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน

บทความน่ารู้เกี่ยวกับข่าวการศึกษาไทย ที่มีทั้งปัญหาด้านการศึกษา ทุนการศึกษาในการศึกษาต่อทั้งระดับประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย ติดตามข้อมูลได้ที่ arab-games.net เว็บไซต์ยอดฮิตที่เราไม่อยากให้คุณพลาด โดยเราได้รวบรวมเกมหลากหลายสไตล์มาไว้ให้คุณที่ สล็อตแตกง่าย รับรองว่านอกจากคุณจะสนุกแล้วยังได้รายได้เข้ากระเป๋าแบบจุใจอีกด้วย

เตรียมสมองให้พร้อมก่อนลุยอ่านหนังสือสอบด้วย ท่าบริหารสมองBrain Gym ที่ได้ผลดีจริง

ท่าบริหารสมองBrain Gym เป็นท่าบริหารที่ออกแบบมาเพื่อบริหารสมอง ช่วยให้สมองทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ต้องเน้นออกแรงมากมาย แต่ช่วยกระตุ้นสมองได้โดยตรง สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย และยังเหมาะมากกับเด็กนักเรียนนักศึกษาที่เครียดจากการอ่านหนังสือสอบ

หรือต้องทำกิจกรรมการเรียนนาน ๆ ซึ่งหากทำ ท่าบริหารสมองBrain Gym นี้เป็นประจำก็จะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ฟื้นฟูความจำ จำได้นาน มีสมาธิ และสดชื่นสดใสมากขึ้น 

ท่าบริหารสมองBrain Gym

ท่าบริหารสมองBrain Gym ที่ช่วยให้สมองทำงานได้ดี

ท่าบริหารสมองBrain Gym ท่าแรกที่อยากแนะนำ ก็คือ ท่าบริหารสมอง : ท่าแตะมือสลับ ท่านี้จะช่วยให้สมองรู้สึกปลอดโปร่ง

ประโยชน์

  • ช่วยพัฒนาสมองในการสะกดคำ การฟัง การอ่าน การเขียน
  • ทำให้เกิดการทำงานอย่างสอดประสานกันได้ดีของสมองทั้งสองซีก
  • ท่านี้ถือว่าช่วยบรรเทาอากหารง่วงเหงาหาวนอนได้ดีมาก เพราะต้องขยับแข้งขยับขาตลอด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องอ่านหนังสือตอนดึก ๆ

 วิธีบริหาร

-เริ่มจากอยู่ในท่ายืน ปลายเท้าแยกจากกันเล็กน้อย

-นำข้อศอกขวามาแตะที่หัวเข่าซ้าย โดยให้ยกเข่าซ้ายมารับด้วย

-จากนั้นให้นำข้อศอกซ้ายมาแตะที่หัวเข่าขวา โดยให้ยกเข่าขวามารับด้วย

-ทำท่าบริหารนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องสัก 3 นาที

*** สามารถเปลี่ยนจากท่ายืนเป็นท่านั่งหรือนอนก็ได้ นอกนั้นทำเหมือนเดิมหมด

ท่าบริหารสมองBrain Gym ท่าแตะมือสลับ

ท่าบริหารสมองBrain Gym ท่าที่สองที่อยากแนะนำ ก็คือ ท่ากายบริหารสมอง : ท่าแนบใบหูชิดไหล่ ท่านี้สามารถนำไปใช้กับคนที่เครียดสะสมมากๆได้ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

ประโยชน์

ท่าบริหารนี้จะช่วยทำให้การทำงานของสมองทั้งซีกซ้าย และซีกขวา สามารถถ่ายโยงข้อมูลถึงกันได้เป็นอย่างดี

ท่าบริหารสมองBrain Gym ท่าแนบใบหูชิดไหล่

วิธีบริหาร

  • เริ่มจากท่ายืน แล้วแยกขาออกจากกันนิดหน่อย
  • ให้เราใช้หูซ้ายพยายามแนบให้ชิดไหล่ซ้าย
  • ใช้แขนซ้ายยกขึ้นมาแล้วทำท่าเหมือนว่าเรากำลังวาดเลข 8 แนวนอน หรือกำลังทำเครื่องหมายอินฟินิตี้ ซึ่งขณะที่เรากำลังวาดแขนเป็นเลข 8 นั้น เราต้องจ้องมองไปตามแขนที่เราวาดไปด้วย
  • จากนั้นก็ทำเช่นเดียวกันกับแขนขวา  

ท่าบริหารสมองBrain Gym ท่าที่สามที่อยากแนะนำ ก็คือ ท่าออกกำลังสมอง : ท่าวิ่งเหยาะ ๆ ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประโยชน์

               เป็นท่าที่จะช่วยในการถ่ายข้อมูลของสมองทั้งสองซีกให้ทำงานได้ดีขึ้น

ท่าบริหารสมองBrain Gym ท่าวิ่งเหยาะๆ

วิธีบริหาร

  • เริ่มจากท่ายืน ปลายเท้าทั้งสองข้างห่างกันเล็กน้อย
  • ยกแขนทั้งสองขึ้นมา ทำท่ากำปั้น ตั้งกำปั้นให้อยู่ประมาณช่วงหน้าอก
  • เริ่มวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กับที่ โดยไม่ต้องวิ่งเร็ว ให้ช้า ๆ แต่ว่ารักษาความเร็วให้คงที่ และให้วิ่งสักพักใหญ่

ติดตามข่าวสาร ข่าวการศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณถึงที่ในเว็บไซต์นี้

ทุกประเด็นแวววงการศึกษา และข่าวการศึกษาของไทยที่เรานำมาอัพเดตให้คุณที่ arab-games.net และขอแนะนำอีกหนึ่งความสนุกผ่านเว็บไซต์ Jokerสล็อต777 ที่มาบริการตุณตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้คุณได้รับความสนุกโดนใจตุณอย่างแน่นอน

เทคนิคช่วยจำ จะช่วยทำให้อ่านหนังสือแล้วจำได้แม่นยำ ตอบได้ฉลุย

บางครั้งเราก็อ่านหนังสือหลายรอบแล้วแต่ก็ยังจำไม่ได้ซักที ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเรายังสักแต่จำอย่างเดียว แต่ไม่มี เทคนิคช่วยจำ ดี ๆ เหล่านี้คอยช่วยนั่นเอง

เทคนิคช่วยจำ

เทคนิคช่วยจำ ที่ต้องลองนำไปใช้รับรองว่าได้ผลแน่นอน

เทคนิคช่วยจำ ข้อแรกที่อยากแนะนำ ก็คือ ศึกษาสัญลักษณ์ต่าง ๆ ให้มาก อย่าลืมว่าคนที่รู้จักสำนวน การเปรียบเทียบ สัญลักษณ์ต่าง ๆ ก็จะได้เปรียบในการอ่านมาก เพราะบางครั้งผู้เขียนก็ไม่ได้มีการอธิบายให้เข้าใจมากนัก เพราะคิดว่าผู้อ่านน่าจะรู้อยู่แล้ว แต่หากเรารู้เรื่องสัญลักษณ์ก็จะเกิดความเข้าใจได้ทันที และจำได้เร็วยิ่งขึ้น 

เทคนิคช่วยจำ ข้อที่สองที่อยากแนะนำ ก็คือ สรุปความคิดที่ได้ ทุกครั้งที่อ่านหนังสือจบสักเล่ม เราควรสรุปความคิดที่ได้ หรือใจความสำคัญที่ต้องการสื่อ และตีความว่าผู้เขียนมีแนวโน้มหรือไปในทางใด ซึ่งแบบนี้จะทำให้การอ่านของเราเป็นมากกว่าการอ่าน เพราะเราไม่เพียงแค่อ่านแล้วจำ ทำให้เกิดความรู้ แต่อ่านแล้วยังรู้จักคิดวิเคราะห์เป็นด้วย

เทคนิคช่วยจำ ที่ต้องลองนำไปใช้รับรองว่าได้ผลแน่นอน

เทคนิคช่วยจำ ข้อที่สามที่อยากแนะนำ ก็คือ มีความรู้ทางภาษา การอ่านขั้นเทพจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องมีความรู้เชิงภาษามาประกอบด้วย โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่มักจะปรากฏในหนังสือเกือบทุกเล่ม หากเรามีพื้นฐานทางภาษาอังกฤษที่ดี ก็จะช่วยให้เราจำได้ง่าย อ่านได้เข้าใจและลึกซึ้งมากขึ้น ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้ภาษาอังกฤษและต่าง ๆ ให้ได้หลากหลาย นอกจากนี้หากเรามีพื้นฐานทางภาษาที่ดี ก็จะช่วยเปิดโอกาสให้เราได้อ่านตำราหรือหนังสือของประเทศอื่น ๆ ได้มากขึ้น ซึ่งโลกทัศน์ของเราก็จะกว้างขึ้นด้วย

เทคนิคช่วยจำ ข้อที่สี่ที่อยากแนะนำ ก็คือ จำตัวอักษรแรกของคำ การจำให้ได้อย่างแม่นยำก็จะช่วยให้การอ่านมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเทคนิคการจำโดยเฉพาะหนังสือที่มีรายละเอียดมาก ๆ และจำเป็นต้องจำให้ได้ เราก็สามารถใช้เทคนิคเหล่านี้ช่วยจำได้ เช่น จำตัวอักษรแรกของคำ โดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษช่วยจำ เช่น ภาคกลาง มีจังหวัด เช่น

เทคนิคช่วยจำ โดยเลือกจำตัวอักษรแรกของคำ
  • อยุธยา (A)
  • สมุทรสงคราม (S) 
  • กำแพงเพชร (K)
  • ปทุมธานี (P)

และจากนั้นเราก็อาจนำมาเรียงลำดับกันใหม่ให้เป็นคำที่น่าจะจำได้ง่ายขึ้น คือ PAKS

เทคนิคช่วยจำ คือการจำศัพท์แบบกวาดตา

เทคนิคช่วยจำ ข้อที่ห้าที่อยากแนะนำ ก็คือ จำศัพท์แบบกวาดตา บางครั้งการจำโดยเฉพาะศัพท์ภาษาอังกฤษต่าง ๆ หากต้องการความรวดเร็ว ไม่ต้องการจำแบบเป๊ะ ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจำขนาดที่ว่าในศัพท์นั้นสะกดอย่างไร มีตัวอะไรบ้าง เพราะเพียงแค่กวาดตาอย่างเร็ว ๆ เราก็พอจะอ่านคำนั้นได้แล้ว (แต่ถามว่าสะกดให้ถูกต้องอย่างไรก็อาจจะตอบได้ไม่ถูกต้อง) ดังนั้นเราจึงควรตัดประเด็นเรื่องการสะกดออกไปแล้วตะลุยอ่านไปก่อน เราก็จะพอจับทางได้ว่าคำที่เขียนประมาณนี้อ่านอย่างนี้ สะกดประมาณไหน

ติดตามข่าวสาร ข่าวการศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณถึงที่ในเว็บไซต์นี้

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของการศึกษา ที่มีทั้งระบบการศึกษาในประเทศไทย ทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ติดตามข้อมูลดีๆได้ที่ arab-games.net เราจะรวบรวมข่าวการศึกษาไทยมาให้คุณอย่างรอบด้าน และถ้าคุณได้ติดตามข้อมูลของเราแล้ว เราอยากแนะนำเว็บไซต์ที่จะช่วยสร้างความเพลิดเพลินให้กับคุณได้ตลอดเวลา เข้ามาที่ รวมเว็บสล็อต มีเกมสนุกๆรอคุณอยู่อีกเพียบบบบ

การอ่านหนังสือ ช่วยให้มีประสบการณ์เพิ่มขึ้นมากมาย

ถ้าพูดถึงเรื่อง การอ่านหนังสือ หลายคนก็คงจะส่ายหน้า เพราะเนื่องจากแค่ยินคำว่าอ่านหนังสือก็รู้สึกง่วงแล้ว จะให้ไปอ่านหนังสือนาน ๆ ก็คงจะไม่ได้ ผู้เขียนไม่ได้หมายถึงหนังสือเรียน หรือหนังสืออะไรก็ได้ที่คิดว่าตัวเองอ่านแล้วจะชอบอะลองหยิบมาอ่านดูสักเล่มนึงก็ได้นะ

เพราะในหนังสือมีอะไรเยอะแยะที่เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันจะมีอยู่บนโลกใบนี้บางครั้งเพียงแค่เราอ่านนิยายบางเรื่องอาจจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมากเลยทีเดียว 

การอ่านหนังสือ ได้ความรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้และช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับเรา

การอ่านหนังสือ นั้น โดยในหนังสือที่เราเริ่มอ่านไปมีบทความมากมายที่เขียนอยู่ในหนังสือทางประสบการณ์ของผู้เขียนเองนะหรือประสบการณ์จากคนที่เล่าให้ผู้เขียนหนังสือฟังหลายครั้งก็ถูกบรรจุอยู่ในหนังสือ  แต่นั่นแหละ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ผู้อ่านไม่เคยเจอหรืออาจจะเคยพบเจอจนบางครั้งรู้สึกว่านี่เรามีคนพบประสบการณ์แบบเดียวกับเราด้วยหรอเลยทีเดียว

การอ่านหนังสือ ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้

ผู้เขียนบทความเป็นคนหนึ่งที่เริ่มหันมา อ่านหนังสือ และได้อะไรจากหนังสือมามากด้วยเช่นเดียวกันหนังสือบางเล่มทำให้ผู้เขียนบทความนึกถึงตัวเองในอดีตหนังสือบางเล่มทำให้เราได้ตระหนักคิดถึงอะไรบางสิ่งบางอย่าง โดย การอ่านหนังสือ บางเล่มก็สร้างรอยยิ้มให้กับเรา หนังสือบางเล่มก็ทำให้เรารู้สึกอยากออกไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบทำ

เห็นไหม การอ่านหนังสือ ให้อะไรหลายอย่างมากนอกจากความรู้ทางวิชาการแล้วประสบการณ์ชีวิตก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีในการดำเนินชีวิต ไม่แน่ประสบการณ์จาก การอ่านหนังสือ อาจจะทำให้เราแก้ปัญหาชีวิตได้ง่ายขึ้นมากก็ได้นะ

การอ่านหนังสือ ให้อะไรหลายอย่าง

ไม่จำเป็นต้อง อ่านหนังสือ วันละเล่มแค่อ่านวันละบทก็พอแล้วแต่ถ้าคนไม่มีเวลายุคนี้เป็นยุคดิจิตอลเรามีหนังสือเสียงให้คุณได้หาอ่านกันรวมถึงเว็บไซต์ต่างๆนานาที่จะทำให้เราได้ประสบการณ์ชีวิตมากกว่า การอ่านหนังสือ เพิ่มขึ้นแน่นอนที่แนะนำเลยสำหรับหนังสือเสียงก็จะมี The Standard  Mission To the Moon Roundfinger และอื่นๆอีกมากมายสำหรับคนไม่มีเวลาก็ไปลองฟังได้นะ หวังว่าจะได้อะไรจากการฟังหรือการอ่านหนังสือกันมาเยอะๆนะ 

ติดตามข่าวสาร เว็บไซต์การศึกษา ที่เราได้นำมาให้คุณรู้เรื่องการศึกษาอย่างรอบด้าน

วิธีเรียนให้เก่ง ความจำดี กับ 5 ขั้นตอนแบบง่าย ๆ ทำอย่างไรได้บ้าง

การเรียนรู้เป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ ซึ่งการเรียนนั้น แต่ละคนได้เรียนในเนื้อหาที่ไม่ต่างกัน ทว่าความเข้าใจในเนื้อหานั้น ๆ มักมีความแตกต่างกัน บางคนเข้าใจดี บางคนไม่เข้าใจ บางคนจำเนื้อหาได้ทุกตัวอักษร บางคนจำไม่ได้เลย นั้นก็เป็นเพราะความจำและความสามารถในการเรียนรู้แต่ละคนต่างกัน สำหรับคนที่ต้องการพัฒนาตนเอง ในบทความนี้ได้รวบรวม 5 วิธีเรียนให้เก่ง ความจำดี แบบง่ายมาบอกต่อกัน ซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้

วิธีเรียนให้เก่ง ความจำดี
  1. สะสมความรู้ของตนเองไปเรื่อย ๆ หลายคนเวลา อ่านหนังสือ มักจะทุ่มเวลาอ่านในไม่กี่วัน ทำให้สิ่วที่ได้เป็นความจำในระยะสั้นชั่วครู่เท่านั้น แต่การสะสมความรู้ไปทีละนิด ๆ ทุกวัน จะทำให้ความรู้ความเข้าใจที่ได้นั้นคงทันระยะยาว ข่าวการศึกษาไทย
  2. ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ บางคนจะบอกว่าเป็นการทำซ้ำนั้นเอง เพราะว่าการลงมือทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ นั้นจะทำให้เกิดความชำนาญและสามารถทำได้คล่องแคล้วต่อยอดความรู้ที่ได้ได้อีกด้วย
  3. มีรางวัลให้ตนเอง เป็นอีกหนึ่ง วิธีเรียนให้เก่ง ความจำดี ที่ดี เพราะว่าทุกคนจะรู้สึกสนุก ไม่ตึงเครียดไปกับการฝึกฝนตนเอง ยิ่งเป็นรางวัลที่อยากได้ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้มีความพยายามได้
  4. การคิดนอกกรอบ การคิดนอกกรอบไม่ใช่ไม่ดีอย่างที่หลายคนคิด เพียงแค่คิดในสิ่งที่ดี ไม่กระทบต่อสังคมเท่านั้นเอง ในการเรียน การต่อยอดความรู้ที่ได้ มักทำให้เก่งและพัฒนาตนเองได้ไวมากขึ้น
  5. ทบทวนความรู้เสมอ การเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ เป็นสิ่งที่ดี แต่จะต้องมีการทบทวนสม่ำเสมอ เพราะว่าจะได้ไม่ลืมเนื้อหาที่ผ่านมานั้นเอง การทบทวนที่ง่ายจะต้องเชื่อมดยงความรู้เก่ากับใหม่เข้าด้วยกันเท่านั้นเอง

ประโยชน์ของการศึกษา วิธีเรียนให้เก่ง ความจำดี

เชื่อว่าหลายคนที่อ่านไป บางคนก็เข้าใจและนำไปใช้กัน ทว่าหลายคนก็ยังมีความสงสัยว่าการศึกษาวิธีเรียนให้เก่ง ความจำดีช่วยสร้างประโยชน์ได้จริงหรือขายฝัน aesexy premier จากที่ได้ศึกษามานั้น บอกเลยว่าจริง! ซึ่งมี 5 ข้อดีที่น่าสนใจ ดังนี้

วิธีเรียนให้เก่ง ความจำดี
  1. ชีวิตมีแบบแผน มีวิธีในการดำเนินการต่าง ๆ ทำให้ไม่หลงทิศทางการเรียน การทำงานนั้นเอง
  2. มีเป้าหมายในการใช้ชีวิต ไม่ใช่ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย ทำให้ชีวิตในอนาคตมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
  3. ได้แก้ไขข้อพกพบร่องขงอตนเอง ช่วยให้กลายเป็นอีกหนึ่งคนที่มีคุณภาพครบในทุก ๆ ด้าน
  4. ผลการเรียนดีขึ้น ความรู้เยอะขึ้น ความจำเป็นระยะยาว ไม่ต้องอดหลับอดนอนมาอ่านช่วงใกล้สอบ
  5. ฝึกวินัยในตนเอง อนาคตหมดปัญหาเรื่องเรียนไม่เข้าใจไปได้เลย

Latest Posts

ข่าวการศึกษาไทย ข้อมูลการเรียน การศึกษาต่อ กศน ปวช ปวส ปตรี ล่าสุด เว็บไซต์ข่าวการศึกษาไทย

ข่าวการศึกษาไทย ข้อมูลการเรียน ข้อมูลด้านการเรียน เรื่องราวเกี่ยวกับการสอบ การศึกษาในระบบโรงเรียน และการศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ ข้อมูลปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการศึกษา การจัดการเรียนการสอน และปัญหาในแวววงการศึกษาไทย รวมทั้งการจัดการเรียนการสอน

ข่าวการศึกษาไทย ข้อมูลการเรียน ในรูปแบต่างๆ arab-games ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับแนวโน้มของการศึกษา

ข่าวการศึกษาไทย และปัญหาของนักเรียนทั้งในด้านที่ส่งผลดีและผลเสียที่ทำให้สังคมไทยยังต้องมีการปรับปรุงระบบการศึกษาไทยให้ก้าวทันต่อสังคมในยุคปัจจุบัน ข่าวการศึกษาไทย และเรายังรวบรวมข่าวด้านการศึกษาต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ข้อมูลทุนการศึกษาต่างๆ เพียงแค่คุณเข้ามาที่ ข่าวการศึกษาไทย คุณจะทราบข่าวสารด้านการศึกษาอย่างแน่นอน

ข่าวการศึกษาไทย arab-games.net300

 

Tags

การบูลลี่ การประกอบอาชีพ การพูด การวางแผน การศึกษา การศึกษาของไทย การศึกษายุคใหม่ การศึกษาสายอาชีพ การสอบ การสื่อสาร การสื่อสารภาษาอังกฤษ การอ่าน การอ่านหนังสือ การเตรียมตัวสอบ การเรียน การเรียนการสอน การเรียนภาษา การเรียนรู้ การเรียนออนไลน์ ข่าวการศึกษาไทย ความคิด ความจำ ความรู้ ด้านการศึกษา ตำราเรียน ทักษะการเรียน นักอ่าน ประสบการณ์ ผู้เรียน ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัย วรรณกรรมเยาวชน วัยเรียน วิธีเรียนออนไลน์ให้สนุก วิธีแก้ปัญหานักเรียนไม่เรียนออนไลน์ สมอง อ่านหนังสือ เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ เทคนิคการเรียนเก่ง เทคโนโลยี เป้าหมาย เรียนออนไลน์ โรคระบาด

ขอบคุณเพื่อนบ้าน เว็บสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ข้อมูลข่าวสารดีๆมาตลอดอย่าง http://www.alupkame.info เว็บแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก