โรงเรียนในตัวเมืองกับโรงเรียนบริเวณชานเมืองหรือชนบทนั้น คุณคิดว่าเหมือนกันหรือไม่? ทุกคนก็คงจะมีคำตอบอยู่ในใจกันแล้ว ซึ่งใครๆก็คงคิดว่าไม่เหมือนกันด้วยสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก จำนวนนักเรียน หนังสือเรียน อุปกรณ์ในการศึกษา แม้กระทั่งการเรียนการสอนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งมันคือปัญหาในสังคมก็ว่าได้ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กๆ เพราะ ปัญหาการศึกษา ไม่ได้รับความเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ปิดกั้นความรู้ ความสามารถในการพัฒนาของเด็กๆได้ ทั้งนี้ความไม่เท่าเทียมทำให้เด็กๆเกิดปัญหามากมาย
ปัญหาการศึกษา ที่ทุกคนอาจมองข้ามไป
ปัญหาการศึกษา ปัญหาข้อแรก คือ มีแต่ความรู้ แต่ไม่ได้ลงมือทำ ในหลายโรงเรียนแทบชนบทหรือชานเมือง จะมีการเข้าถึงของการศึกษาที่ค่อนข้างน้อยมากๆ ทำให้อุปกรณ์หรือสิ่งที่อำนวยความสะดวกในการเรียนของเด็กๆจะมีน้อยจนถึงขั้นที่ไม่มีเลย ต่อให้เด็กมีความรู้มากแค่ไหน แต่ถ้าหากเด็กมีความรู้แต่ไม่สามารถลงมือปฏิบัติหรือนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ ความรู้ที่สั่งสมมาก็ไร้ซึ่งประโยชน์
ปัญหาการศึกษา ปัญหาข้อที่สอง คือ โอกาส ซึ่งเป็นสิงที่สำคัญมากๆสำหรับตัวเด็กๆ เพราะจะทำให้พวกเขามีอนาคตที่ดี แต่ว่าโรงเรียนในชนบทกลับได้รับโอกาสที่น้อยกว่าโรงเรียนในเมือง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการสอบเข้าในมหาวิทยาลัยต่างๆ โอกาสที่จะได้รับความรู้ในอาชีพการงานในอนาคต เพื่อให้พวกเขาได้รู้ตัวตนและสิ่งที่ตนเองชอบ เป็นต้น
ปัญหาการศึกษา ปัญหาข้อที่สาม คือ จำนวนคุณครูที่น้อย โรงเรียนในเมืองที่ทุกคนเห็นและเป็นที่รู้จัก มักจะมีจำนวนคุณครูที่มากและคุณครูในแต่ละคนก็จะมีความถนัดในแต่ละวิชา สอนในวิชาของตนเอง แต่ในส่วนของโรงเรียนในชนบทกลับแตกต่างกัน เนื่องด้วยความไกลจากในตัวเมืองทำให้คุณครูหรือผู้คน มักจะไม่เห็นหรือรู้จักกับโรงเรียนนั้น รวมไปถึงจำนวนคุณครูที่มีค่อนข้างน้อย และคุณครู 1 คนมักจะสอนในหลายๆวิชา ทำให้เด็กอาจจะเรียนรู้ได้ไม่ละเอียดมากเท่าที่ควร
ปัญหาการศึกษา ปัญหาข้อที่สี่ คือ ค่าใช้จ่าย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งใช่ว่าพ่อแม่ไม่อยากจะส่งลูกของตนเองไปในโรงเรียนที่ดีๆ แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงและมากมาย จึงทำให้เด็กหลายๆคนมักจะไม่มีโอกาสได้เรียนในโรงเรียนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อม หรือบางคนถึงขั้นที่ไม่มีโอกาสได้เรียนเลยด้วยซ้ำ
ติดตามข่าวสาร ข้อมูลการศึกษา ได้ที่เว็บไซต์นี้